สิ่งที่จะสามารถช่วยเยียวยาจิตใจหรือให้พลังในการสรรสร้างสิ่งต่างๆ มากมายให้กับเราก็คงจะหนีไม่พ้นเรื่องของ “เสียงเพลง” อย่างแน่นอนหล่ะครับ ซึ่งเพลงก็มีหลากหลายแนวหลากหลายอารมณ์ให้เราได้เลือกฟังกัน แต่ในวันนี้เราจะขอมาแนะนำ “5 เพลงต่างชาติ ที่ฟังแล้วติดหูแน่นอน” กันครับ จะมีเพลงไหนและมีความหมายอย่างไรบ้างนั้น เราชมกันเลย แต่ก่อนอื่นมาทำความรู้จักกับแนวเพลงต่างๆ กันสักนิ๊ดดนึงนะครับ
แนะนำ 3 แนวเพลงที่น่าสนใจ
● เพลงแนว Lo-Fi
Lo-Fi ย่อมาจากคำว่า Low-Fidelity สามารถแปลตรงตัวได้เป็นความหมายว่า” ความเที่ยงตรงต่ำ” ซึ่งดนตรีแบบ Lofi จะไม่ได้สร้างสรรค์ขึ้นด้วยอุปกรณ์หรือเทคโนโลยีที่ทันสมัย แต่โดยสภาพความเป็นตัวของมันที่มีความเป็นธรรมชาติ มีเสียงซ่าเบา ๆ ฉ่า ๆ คลอคู่ไปกับเสียงนักร้องก็ทำให้มันมีเสน่ห์หลายอย่างที่ดึงดูดให้คนฟังต้องหยุดพักการทำทุกสิ่งและหันไปให้ความสนใจกับมัน ซึ่งนี่เองที่เป็นเอกลักษณ์ของดนตรีแบบ Lofi ที่ใช้ความเป็นธรรมชาติและความไม่ทันสมัยกระตุ้นให้คนฟังมาสนใจ
● เพลงแนว EDM
แนวเพลงแดนซ์ที่นิยมเปิดตามสถานที่เที่ยวกลางคืนและงานเทศกาลดนตรี หลายคนมักเข้าใจผิดว่า EDM เป็นแนวเพลงของคนรุ่นใหม่ แต่ที่จริงแล้วแนวเพลง EDM มีมาตั้งแต่ช่วงปลายทศวรรษ 1980 เอกลักษณ์ของแนวเพลง EDM จะประกอบไปด้วยจังหวะเพลงที่เร็วและตื่นเต้น มีการใช้ซินธิไซเซอร์, ดรัมแมชชีน และเสียงแซมพลิง การแสดงสดของแนวเพลง EDM จะประกอบไปด้วยดีเจและอุปกรณ์คู่กายอย่าง Laptop และ Midi controller
● เพลงแนว Alternative-Rock
Alternative-Rock คือ แนวเพลงร็อกที่เกิดขึ้นในคริสต์ทศวรรษ 1980 และได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในคริสต์ทศวรรษ 1990 คำว่าออลเทอร์นาทิฟถูกคิดขึ้นในคริสต์ทศวรรษ 1980 อธิบายถึงแนวเพลงได้รับแรงบันดาลใจจากพังก์ร็อก โดยอยู่ค่ายเพลงอิสระ ที่ไม่ได้อยู่ในกระแสนิยมในช่วงเวลานั้น หรือจะเรียกเพลงแนวนี้ว่า “Rock-Indy” ที่เป็นเพลงร็อคที่มีความอิสระจากเพลงกระแสหลักนั้นเองครับ
5 เพลงต่างชาติที่ฟังแล้วติดหูแน่นอน
- เพลง Cold จากวง Boy in space อาจจะเป็นเพลงที่มีมานานแล้วตั้งแต่ปี 2020 แต่เรียกได้ว่าเป็นเพลงที่มีท่วงทำนองติดหนูเป็นอย่างมาก พร้อมกับ เนื้อหาที่ดีมากๆ เลยหล่ะครับ
- เพลง Dopamine Addict by Alec Benjamin เป็นเพลงที่มีความเป็นเอกลักษณ์และติดหูเป็นอย่างมาก เหมาะสำหรับฟังในทุกๆ วันเลยหล่ะครับ
- เพลง One life by Ed Sheeran เป็นอีกหนึ่งเพลงที่มีความกินใจที่เกี่ยวกับเรื่องราวของความรักที่เราทุกคนต่างใฝ่หา หนึ่งคำและรักเดียวตลอดไป เป็นเพลงที่เหมาะใช้ในงานแต่งมากๆ เลยหล่ะครับ
- เพลง Hold On จาก Able Joseph เป็นอีกหนึ่งเพลงที่เราขอแนะนำสำหรับทุกๆ ท่านเลยหล่ะครับ มีความไพเราะติดหู ฟังเพลินๆ กันเลยหล่ะ เนื้อหาเพลงก็ตรงตามชื่อเลยหล่ะครับ
- เพลง Everything Suck จาก Vaultboy เป็นเพลงที่มีความเป็นเอกลักษณ์และติดหูเป็นอย่างมาก เหมาะสำหรับฟังในวันที่รู้สึกว่าทุกอย่างไม่เป็นไปตามที่เราต้องการ แต่อยากจะหาความสุขให้กับเราเพลงแค่ได้ฟังเพลงนี้เท่านั้น
https://www.youtube.com/watch?v=_yGifKCmHC0
ข้อดีจากการฟังเพลง
- เพลงช่วยบรรเทาอาการเจ็บปวด เมื่อยาแก้ปวดออกฤทธิ์ไม่เร็วดั่งใจ ลองเปิดเพลงโปรดของคุณดูสิ แล้วจะรู้ว่าการฟังเพลงนั้นช่วยบรรเทาอาการเจ็บปวดได้เป็นอย่างดี
- เพลงที่มีความเกรี้ยวกราด จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในทางบวกให้กับตัวคุณ มีผลการพิสูจน์มาแล้วว่า เมื่อให้ผู้เข้าร่วมทดลองฟังเพลงที่มีทำนองเนื้อร้องที่เกรี้ยวกราด พวกเขาจะสามารถทำสกอร์ได้ดีกว่าปกติ
- เพลงช่วยให้คุณออกกำลังกายได้ดีขึ้น สิ่งสำคัญในการเข้ายิมไม่ใช่รองเท้าหรือชุดกีฬา แต่คือการได้ฟังเพลงในระหว่างที่ออกกำลังกายไปด้วย เพราะการได้ฟังเพลงจะช่วยให้คุณเพิ่มประสิทธิภาพในการออกกำลังกายได้มากขึ้น
- การฟังเพลงช่วยให้คุณทำงานได้ดีขึ้น ข้อนี้ยังเป็นที่ถกเถียงกันอยู่บ้าง แต่มีเสียงสนับสนุนว่าการฟังเพลงระหว่างการทำงานอาจลดคุณภาพงานลงบ้าง แต่จะช่วยให้คุณทำงานได้อย่างมีความสุขมากขึ้น
เป็นอย่างไรกันบ้างครับกับการแนะนำ “5 เพลงต่างชาติ ที่ฟังแล้วติดหูแน่นอน” ที่เราได้นำมาฝากท่านผู้อ่านกันในบทความข้างต้นนี้ครับ ส่วนตัวคิดว่าทั้ง 5 เพลงมีความหมายดีและเพราะมากๆ เลยหล่ะครับ
