ว่ากันว่าเรื่องของความรักนั้นเป็นสิ่งที่ทั้งงดงามและมีหลากหลายอารมณ์ปนเปย์กันอยู่ภายในเรื่องราวเหล่านั้นก็ว่าได้ครับ เชื่อว่าหลายๆ ท่านก็คงอยากที่จะดูหนังเหล่านี้เพิ่มเติมเต็มชีวิตที่คาดหรืออยากเรียนรู่เรื่องราวเหล่านั้นผ่านตัวละครจากหนังและซีรี่ส์ต่างๆ มากมาย บทความนี้จึงอยากพาท่านผู้อ่านไปพบกับ “5 หนังรักน่าดูบน Netflix” ที่ทั้งได้ความบันเทิงและข้อคิดติดตัวกันไปด้วยครับ จะมีเรื่องใดบ้างนั้น…เราไปชมกันเล้ยย!!!
●About time
เป็นหนังที่จะพาเราไม่รู้จักกับชีวิตรักของชายหนุ่มผู้ที่สามารถเดินทางข้ามมิติย้อนเวลาเพื่อทำให้คนใครหนึ่งตกหลุมรักเขาได้อย่างซ้ำๆ เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในหนังรักรอมคอมเรื่องเยี่ยมที่หลายคนชอบและกลับมาดูซ้ำๆ ได้แบบไม่มีเบื่อ โดยเป็นเนื้อหาที่จะกล่าวถึงพระเอกของเรื่องอย่าง Tim ผู้มีความสามารถในการย้อนเวลา ดังนั้น เขาจึงใช้ประโยชน์จากตรงนี้ในการทำให้ทุกเรื่องในชีวิตเป็นไปแบบที่เขาต้องการ แม้แต่ความรักของเขากับ Mary ก็ได้ความสามารถตรงนี้มาช่วยให้เขาให้มีโอกาสสมหวังในความรักกับเธอ เพราะเขาสามารถย้อนเวลาเพื่อกลับไปจีบให้ติดได้ แต่แล้วเขาก็ได้เรียนรู้ว่ามีอะไรอีกมากที่การย้อนเวลานั้นไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ อีกทั้งยังส่งผลกระทบต่อชีวิตเขาในต่อๆ ไป เรื่องราวจะเป็นอย่างไร บทสรุปจะเป็นแบบไหนต้องไปหารับชมกันแล้วหล่ะครับ
●Always Be My Maybe
เรียกได้ว่าเป็นอีกหนังรักโรแมนติกคอมเมดี้ จากค่าย Netflix ที่พูดถึงคู่เพื่อนชายหญิงอย่าง “ซาซ่า” และ “มาร์คัส” ทั้งคู่เคยกุ๊กกิ๊กกันในสมัยเด็ก ก่อนจะห่างหายกันไป แต่แล้วก็ได้โคจรกลับมาพบกันอีกใน 15 ปีต่อมา ขณะที่ซาซ่าซึ่งปัจจุบันเป็นเชฟดังแห่งลอสแองเจลลิส ได้กลับมายังบ้านเกิดในซานฟรานซิสโกอีกครั้ง เพื่อเปิดร้านอาหารแห่งใหม่ เธอจึงได้บังเอิญพบกับ มาร์คัส ที่ยังคงปักหลักทำงานเป็นช่างแอร์ช่วยพ่ออยู่ที่บ้าน และมีงานอดิเรกเป็นนักดนตรีวงฮิปฮอป จนกลายเป็นจุดเริ่มต้นความสัมพันธ์สุดอบอุ่นของพวกเขาทั้งคู่อีกครั้ง
●Crazy rich love
เป็นอีกหนึ่งภาพยนตร์โรแมนติกคอมเมดี้ร่วมสมัย สร้างอิงจากนิยายชื่อดังที่ขายดีทั่วโลกของเควิน ควอน เป็นเรื่องราวของ ราเชล ชู (คอนสแตนซ์ วู) ชาวนิวยอร์คที่เดินทางตามแฟนหนุ่มที่คบกันมานานอย่าง นิค ยัง (โกลดิ้ง) ไปงานแต่งเพื่อนสนิทของเขาที่สิงคโปร์ เธอรู้สึกตื่นเต้นที่จะได้ไปเที่ยวเอเชียเป็นครั้งแรก แต่รู้สึกกังวลกับการพบครอบครัวของนิคด้วย ซึ่งราเชลต้องศึกษาอย่างไม่ทันตั้งตัวเกี่ยวกับเรื่องชีวิตของนิคที่เขาไม่ทันให้ความสนใจจะเล่าให้ฟัง ปรากฎว่าเขาไม่ใช่แค่สืบเชื้อสายมาจากครอบครัวที่ร่ำรวยที่สุดในประเทศ แต่เขายังเป็นหนุ่มโสดผู้เป็นที่หมายปองมากที่สุดอีกด้วย การเดินควงแขนนิคกลับทำให้ราเชลต้องตกเป็นที่นินทา ทั้งจากคนในสังคมที่อิจฉา และที่แย่กว่านั้นคือจากแม่ของนิค (มิเชล โหยว) ที่ไม่ชอบใจเธอด้วย หลังจากนั้นไม่นานจึงเห็นได้ชัดเจนว่ามีสิ่งเดียวที่เสียสติได้กว่าความรักคือเรื่องครอบรัว ซึ่งเรื่องราวโรแมนติกที่สนุกสนานแบบนี้จะสะท้อนถึงเรื่องจริงของผู้ชมทั่วโลก
●Call Me By Your Name
หนังแนวโรแมนติกดราม่า ที่ดัดแปลงมาจากนิยายโรแมนติกเรื่อง Call Me by Your Name ของอังเดร เอซิแมน เล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นในช่วงยุค 80 กับความสัมพันธ์ระหว่าง “เอลิโอ” เด็กหนุ่มลูกครึ่งอเมริกัน-อิตาลี วัย 17 ปี กับ “โอลิเวอร์” ชายอเมริกันวัย 24 ปี ซึ่งเป็นผู้ช่วยด้านโบราณคดีของพ่อเอลิโอ ที่ต้องมาช่วยงานช่วงปิดภาคฤดูร้อน ทำให้ทั้งคู่ได้มีโอกาสใกล้ชิดกัน จนนำไปสู่เรื่องราวความสัมพันธ์ที่แสนอบอุ่น ที่มีเพียงคนสองคนที่รู้กันอยู่ในใจ กระทั่งโอลิเวอร์ต้องเดินทางกลับอเมริกา ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาจึงเดินทางมาจุดเปลี่ยนอีกครั้ง
●Marriage Story
หนังรักดราม่าที่เปรียบดังชีวิตจริงบน Netflix ที่เป็นเรื่องราวของ “ชาลี” และ “นิโคล” คู่สามีภรรยาในมหานครนิวยอร์ก ที่ความสัมพันธ์เดินทางมาถึงทางแยกของชีวิตคู่ แม้พวกเขาจะมีลูกชายอย่าง “เฮนรี” เป็นโซ่ทองคล้องใจ แต่สุดท้ายก็ไม่อาจเยียวยาชีวิตคู่ได้ และนำไปสู่การฟ้องหย่า ระหว่างนั้นทั้งคู่พยายามทำหน้าที่พ่อและแม่อย่างดีที่สุด แต่พวกเขาจะทำอย่างไรเพื่อไม่ให้ลูกชายต้องมีบาดแผลจากเรื่องราวสุดเจ็บปวดที่ไม่มีใครอยากให้เป็น ต้องลองไปสัมผัสกันดูแล้วหล่ะครับ
และนี้ก็คือ “5 หนังรักน่าดูบน Netflix” ที่เราได้รวบรวมมาฝากท่านผู้อ่านกันในข้างต้น หวังว่าจะเป็นภาพยนตร์ที่ทุกท่านจะหาโอกาสไปรับชมกันนะครับ สุดท้ายนี้ขอให้สนุกกับเรื่องราวต่างๆ กันครับ
